จากข้อมูลหลายแหล่งพบว่า ERP Software ในปี ค.ศ. 2020 จะเน้นสนับสนุนการใช้งานบนคลาวด์และอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม SME
เมื่อกล่าวถึงคำว่า “ยุคดิจิทัล” เรามักหลับตานึกถึงภาพของโลกแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยเครื่องมือและวิทยาการล้ำยุค การสื่อสารด้วยความเร็วสูง (5G) ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ปริมาณมหาศาล (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแรงงานโรบอท (Robotics) ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นความจริงมากขึ้นทุกวัน แต่คงต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายทศวรรษในการวิจัยและพัฒนาโดยอาศัยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นแรงผลักดัน
โดยซอฟต์แวร์อีอาร์พี (Enterprise Resources Planning) เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางธุรกิจ (Business Solutions) ที่นำมาใช้ในการจัดระเบียบและปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กรของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน การติดตั้งใช้งานระบบอีอาร์พี ในยุคแรกถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและผู้เชี่ยวชาญจากหลายส่วนจึงจะสำเร็จ อาทิ ที่ปรึกษาด้านบัญชีและการเงิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอที ผู้ดูแลเครือข่าย นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ นักพัฒนาโปรแกรม และผู้ดูแลฐานข้อมูล ทำให้ต้องใช้เวลาและงบประมาณจำนวนมาก
แต่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในปัจจุบันทำให้ซอฟต์แวร์อีอาร์พีมีต้นทุนที่ต่ำลงตลอดจนมีคุณสมบัติพื้นฐานที่ครบถ้วนและพร้อมใช้งานทันที ซึ่งในปี ค.ศ. 2020 ซอฟต์แวร์อีอาร์พี มีแนวโน้มที่จะปรับตัวไปในทิศทางที่เน้นการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานให้กับผู้ใช้งาน ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น ได้แก่
Mobility and Flexibility ERP Software
มีฟังก์ชันเพื่อสนับสนุนการใช้งานบนคลาวด์และอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการติดตั้งใช้งานบนคลาวด์แบบลูกผสม (Hybrid cloud/ Multi-cloud)
Integrated Business Intelligence
เพิ่มประสิทธิภาพในการออกรายงานวิเคราะห์ข้อมูลที่ผู้บริหารสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว (Real-time analytics)
Improve User Experience (UX)
ปรับปรุงหน้าจอให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานระบบ และปรับแต่งได้ตามความต้องการ
Cost-effective and easier to deploy
ติดตั้งใช้งานง่าย มีแพ็คเกจที่เหมาะสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ต้องการฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานและไม่ต้องการลงทุนสูง
Dynamics 365 Business Central (online version) เป็นคลาวด์อีอาร์พีของไมโครซอฟท์ ที่ให้บริการแบบ SaaS (Software as a Services) โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือน เหมาะสำหรับองค์กรที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ไอทีคอยดูแล และต้องการเริ่มใช้งานซอฟต์แวร์อีอาร์พีแบบมาตรฐานที่ไม่ต้องการพัฒนาโปรแกรมเพิ่มเติม (Customisation)
ทั้งนี้ Dynamics 365 Business Central มีคุณสมบัติพื้นฐานที่รองรับความต้องการของภาคธุรกิจและการผลิตที่ครบถ้วน ได้แก่ การขาย จัดซื้อ คลังสินค้า จัดส่ง ผลิต บริการ บัญชีและการเงิน ที่มาพร้อมกับ AMCO – Localization Pack for Thailand ที่ได้รับการรับรองจากไมโครซอฟท์และออกรายงานได้ตามมาตรฐานที่สรรพากรยอมรับ